Home รู้จักชลบุรี

รู้จักชลบุรี

จังหวัดชลบุรี  หรือที่คนทั่วไปเรียกกันสั้นๆว่า “เมืองชล”  เป็นจังหวัดท่องเที่ยวชายทะเลภาคตะวันออกที่มีชื่อเสียงมาช้านาน  อีกทั้งมีชุมชนอยู่อาศัยย้อนไปได้ถึงยุคทวารวดี   กลายเป็นแหล่งสั่งสมอารยธรรมและความเจริญรุ่งเรืองในหลายๆด้าน  โดยเฉพาะการท่องเที่ยว  ขนบธรรมเนียมประเพณี  วิถีชีวิตชุมชน  และอุตสาหกรรมระดับนานาชาติ  สำหรับคนทั่วไปแล้ว  ชลบุรีอาจเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองตากอากาศชายทะเลที่ใกล้กรุงเทพฯ  โดยเฉพาะหาดบางแสนและพัทยา  ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว  ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ  ต่างก็เดินทางเข้ามาสัมผัสความสวยสดงดงามของชายทะเลตะวันออกอันมีมนต์เสน่ห์ แห่งนี้   ปีละหลายล้านคน

การ ที่ ชลบุรีตั้งอยู่ติดทะเล  และมีชายฝั่งทอดยาวถึง 160 กิโลเมตร  ส่งผลให้มีอากาศเย็นสบายตลอดปี  ฤดูร้อนไม่ร้อนจัด  ฤดูหนาวอากาศไม่ถึงกับแห้งแล้งมากนัก  เพราะยังมีฝนตกอย่างชุ่มฉ่ำภายใต้อิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้  โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ตอนในของจังหวัด  ซึ่งมีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาและที่ราบลอนลูกคลื่นสลับกันไป  มักจะมีฝนตกชุกกว่าชายฝั่งทะเล  ในครั้งอดีตแถบชายทะเลเมืองชลบุรีได้รับการยอมรับว่ามีอากาศดีมาก  จนสามารถใช้เป็นสถานพักฟื้นผู้ป่วยและที่ตากอากาศของพระมหากษัตริย์  รวมถึงเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงในราชวงศ์จักรีหลายพระองค์  ดังปรากฏหมู่พระราชฐานอันงดงามของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  รัชกาลที่ 5  อยู่บนเกาะสีชัง  และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งอย่างมิอาจปฏิเสธได้

ความ ได้เปรียบทางทำเลที่ตั้ง  ณ  ชายฝั่งทะเลซึ่งมีคลื่นลมไม่แรงจัดตลอดปี  ทำให้ชลบุรีกลายเป็นเมืองท่าสำคัญมาแต่ครั้งโบราณกาล  มีชาวจีนล่องเรือสำเภาขนาดใหญ่เข้ามาค้าขายและอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานเป็น จำนวนมาก  ดังปรากฏว่ายังคงมีลูกหลานชาวจีนอาศัยสืบต่อและประกอบสัมมาอาชีพอยู่ทั่วไป ในชลบุรีแม้ทุกวันนี้   มีบันทึกของชาวเรือในอดีตกล่าวว่า  เกาะสีชังเป็นจุดที่เรือสำเภาจีนมักใช้จอดพักเรือก่อนเดินทางเข้าสู่ปากแม่ น้ำเจ้าพระยา  หรือก่อนเดินทางออกสู่มหาสมุทร  จนถึงทุกวันนี้ก็ยังมีเรือสินค้าและเรือเดินทะเลขนาดใหญ่เข้ามาจอดลอยลำใน บริเวณดังกล่าวอยู่เสมอ  ไม่เคยเปลี่ยน

ทำเลที่ตั้งอันเหมาะสมสำหรับการค้าขายทางทะเลนี้เอง  ส่งผลให้ปัจจุบันชลบุรีได้รับการวางแผนให้เป็นเมืองหลักทางด้านอุตสาหกรรมและการค้าขายของภาคตะวันออก  มีท่าเรือแหลมฉบัง  เป็นท่าเรือพาณิชย์สำคัญของประเทศไทย  รองก็แต่ท่าเรือกรุงเทพฯเท่านั้น  นอกจากนี้ยังมีโรงงานอุตสาหกรรมมากมาย  อาทิ  โรงกลั่นน้ำมัน  โรงงานประกอบรถยนต์  โรงงานน้ำตาลทราย  โรงงานมันสำปะหลังอัดเส้นและอัดเม็ด  และโรงงานผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์  เป็นต้น  เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง  ด้วยเหตุที่ชลบุรีมีแหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมหลากหลาย  ทั้งด้านธรรมชาติและสรรพชีวิต  วัดวาอารามเก่าแก่  วิถีชีวิตชุมชนน่าสัมผัส  งานหัตถกรรมอันประณีต  รวมถึงยังมีสถานบันเทิงทันสมัย  ควบคู่ไปกับกิจกรรมผจญภัยหลากรูปแบบ  ไม่ว่าจะเป็นการขี่ม้า  ดำน้ำ  เล่นเรือใบ  ขึ้นเครื่องร่อน  ฯลฯ  ซึ่งต่างก็ช่วยส่งเสริมให้เมืองชลมีความน่าดึงดูดในทุกมิติ

ปัจจุบันชลบุรีมีประชากรประมาณ  1,371,824  คน  ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผู้โยกย้ายเข้ามาทำงานในภาคอุตสาหกรรมต่างๆที่ขยาย ตัวอย่างต่อเนื่อง  ทว่าเมื่อพูดถึงผู้คนพื้นถิ่นจริงๆของชลบุรีแล้ว  จะพบว่าคนชลบุรีมีอาชีพผูกพันอยู่กับท้องทะเล  นาไร่  ทำปศุสัตว์  และทำเหมืองแร่  โดยลักษณะนิสัยของคนเมืองชลดั้งเดิมได้ชื่อว่าเป็นคนจริง  ใช้ชีวิตเรียบง่าย  ประหยัดอดออม  เอาการเอางาน  หนักเอาเบาสู้  มีความเป็นมิตร  และพร้อมต้อนรับผู้มาเยือนเสมอ  แม้ทุกวันนี้สภาพบ้านเมืองของชลบุรีจะเจริญรุดหน้าไปมาก  อีกทั้งมีผู้คนต่างถิ่นโยกย้ายเข้ามาอาศัยผสมกลมกลืนกับชนดั้งเดิม  ทว่าคนเมืองชลก็ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมและประเพณีอันดีงามของตนเอาไว้อย่าง เหนียวแน่น  สะท้อนออกมาในรูปแบบงานเทศกาลประจำปีต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็นงานบุญกลางบ้านและงานเครื่องจักสานพนัสนิคม  งานประเพณีวันไหล (งานก่อพระทรายวันไหล)  ในช่วงหลังวันสงกรานต์  งานประเพณีกองข้าวอำเภอศรีราชา  งานประเพณีวิ่งควายอันคึกคักสนุกสนาน  รวมถึงงานแห่พระพุทธสิหิงค์และงานกาชาดชลบุรี  เป็นต้น  เหล่านี้ล้วนแสดงให้ประจักษ์ถึงเอกลักษณ์ความโดดเด่นของคนชลบุรีได้อย่าง ชัดเจน

คนเมืองชลในปัจจุบันนับถือศาสนาพุทธมากถึง 97 เปอร์เซ็นต์  ส่วนที่เหลือนับถือศานาคริสต์  อิสลาม  และอื่นๆ  โดยผสมผสานความเชื่อความศรัทธาในสิ่งศักดิ์สิทธิ์เข้าไว้ในศาสนาที่ตนนับถือ ด้วย   เช่น  เมื่อถึงช่วงเทศกาลกินเจประมาณเดือนตุลาคมของทุกปี  ผู้คนที่ศรัทธาก็จะพากันนุ่งขาวห่มขาว  งดการบริโภคเนื้อสัตว์  แล้วเดินทางไปร่วมสวดมนต์บำเพ็ญทานยังโรงเจต่างๆทั่วจังหวัดชลบุรี   หรืออีกตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ  คนเมืองชลมักเดินทางไปที่เขาสามมุข  เพื่อสักการะและขอพรจากเจ้าแม่สามมุข  บริเวณเขาสามมุขซึ่งไม่ห่างจากหาดบางแสนและอ่างศิลา  สองตัวอย่างนี้คือความเชื่อของชาวจีนที่ผสานรวมเป็นเนื้อเดียวกับความศรัทธา ท้องถิ่น  จนไม่สามารถแยกออกจากกันได้

ชลบุรีเป็นย่านชุมชนจีนที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก คนจีนในชลบุรีส่วนใหญ่เป็นเชื้อสายแต้จิ๋ว ซึ่งเชี่ยวชาญการค้าและมีบทบาทสำคัญในเรื่องเศรษฐกิจ  ประมง  อุตสาหกรรม เกษตรกรรม  และเข้ามาตั้งถิ่นฐานในช่วงต้นรัตนโกสินทร์ (รัชกาลที่ 2-3) อยู่แถบชายทะเลเมืองบางปลาสร้อย ทำการค้าและประมงอย่างกว้างขวางจนมีเหลือส่งออกไปยังต่างประเทศ อีกทั้งเป็นผู้นำอ้อยเข้ามาปลูก และริเริ่มอุตสาหกรรมน้ำตาลทรายแถบอำเภอบ้านบึง  อำเภอพานทอง และอำเภอพนัสนิคม  ส่วนคนจีนที่อพยพเข้ามาในสมัยรัชกาลที่ 5 มักทำอาชีพปลูกผักและเลี้ยงเป็ดอยู่ในบริเวณเดียวกัน  สำหรับชนชาวลาวนั้นอพยพเข้ามาช่วงรัชกาลที่ 3  มีอาชีพทำไร่ ทำนา  และมีความสามารถพิเศษในการทำหัตถกรรมจักสาน ส่วนชาวมุสลิมอพยพเข้ามาตั้งแต่สมัยอยุธยา ปัจจุบันมีอาชีพทำสวนผลไม้  ไร่มันสำปะหลัง  และค้าขายในตลาด  เป็นกลุ่มที่เคร่งครัดในประเพณีและศาสนา

ศักยภาพ และความโดดเด่นในหลายด้านของเมืองชลทั้งหมดดังกล่าว  จึงกลายเป็นต้นทุนที่มั่งคั่งเพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง  ส่งผลให้ชลบุรีกลายเป็น  “เพชรน้ำเอกแห่งบูรพาทิศ”  ที่พร้อมเปิดประตูออกสู่สังคมโลกได้อย่างสมภาคภูมิ…

ข้อมูลจาก : chonburi.go.th